Chapter 3 : “CUBISM”
สำหรับคอลเลคชั่นนี้ DAPPER เลือกหยิบความขัดแย้งที่น่าสนใจ ในแนวคิดการออกแบบของแบรนด์ ซึ่งมีแนวคิดมุ่งเน้น
“การพัฒนาสู่โลกอนาคต” แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงจิตวิญญาณของ “การโหยหาและพยายามรักษารากเหง้าของแบรนด์” ด้วยการผสมผสานเทคนิคการผลิต ที่ทั้งอัดแน่นไปด้วยเทคนิคเก่าแก่ในแบบฉบับของ DAPPER มาบรรจบกับโลกอนาคตผ่านการเลือกใช้เทคนิคการผลิต และวัสดุที่ล้ำสมัย


อีกหนึ่งความท้าทายคือ “ความกล้า” ที่จะเลือกเล่นกับเส้นสายที่ตัดกันไปมา มานำเสนอผ่านการเล่าเรื่องด้วยเส้นแสงเลเซอร์ที่เห็นกันชินตาใน Club ยุค80’s
นำกลับมาสร้างขึ้นใหม่ในแพทเทิร์นลายพิมพ์บน เสื้อเชิ้ต และเสื้อโปโล ที่ให้โทนสีที่แปลกตา ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบร่วมสมัย รวมถึงการเล่นกับตัวอักษรบนเสื้อยืด ที่นิยมในยุค 90’s ที่ปรับให้ Modern ด้วยการวางลายตัวอักษร DAPPERในมิติที่แปลกตาออกไป
Hilight อยู่ที่การทอลายผ้าแจ็คการ์ด ตัวอักษร DAPPER แบบไล่ระดับจากชายเสื้อด้านล่างไปถึงส่วนบนนับเป็นงานหินสำหรับกระบวนการทอ ที่ต้องบอกว่าทำได้ไม่ง่าย
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคอลเลคชั่นนี้คือ ACCESSORIES ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จากรองเท้าเทรนเนอร์แฟชั่น
ที่นำเอาวัสดุแปลกตาอย่าง TECH LEATHER ที่มีหลายคุณสมบัติที่เสริมความทนทานให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงเทคนิคการขัดผิวหนังแท้ ให้เกิดร่องรอยเหมือนผ่านการใช้งานมาแล้ว ทำให้ได้ลุคคลาสสิคที่ดูเหมือนเป็นของเก่าเก็บผ่านการดูแลอย่างดี โดยนำมาปรับใช้ในรูปแบบรองเท้าสนีคเกอร์หนังที่มีกลิ่นไอคลาสสิค ในสีน้ำเงินเข้ม และสีน้ำตาลวิสกี้

